พระราม 2-บางขุนเทียน พื้นที่ความสุขของทุกสมาชิกในครอบครัว

ใครที่เคยเข้าใจว่าย่านพระราม 2 – บางขุนเทียน เป็นเพียงประตูสู่แหล่งท่องเที่ยวอย่าง ชะอำ หัวหิน และจังหวัดทางภาคใต้ ต้องเปลี่ยนความคิดเสียแล้ว วันนี้ ทำเลอันกว้างขวางแห่งนี้กำลังกลายเป็นพื้นที่เติบโตของครอบครัวขนาดเล็กไปจนถึงครอบครัวใหญ่ ด้วยเป็นย่านที่มีความพรั่งพร้อมต่อการใช้ชีวิตไม่ต่างจากในเมืองมากขึ้นทุกที มีเส้นทางคมนาคมที่เชื่อมต่อสะดวก จะขับรถออกนอกเมืองก็ง่าย ใกล้แหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ มีพื้นที่จับจ่าย ร้านนั่งสบายก็มาก หากคิดจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นและมีบ้านสักหลัง ทำเลพระราม 2 – บางขุนเทียนจะเป็นหนึ่งคำตอบของความสุขของทุกสมาชิกในครอบครัวได้

10 สถานที่ย่านพระราม 2 – บางขุนเทียน ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ความเป็นครอบครัว

มาดูกันว่าสถานที่ไหนในย่าน พระราม 2 – บางขุนเทียน ที่รองรับไลฟ์สไตล์อบอุ่นแบบครอบครัว และถ้าครอบครัวของคุณมีไลฟ์สไตล์ที่ตรงทั้ง 10 สถานที่นี้ แน่นอนว่าทำเลที่อยู่อาศัยแห่งนี้ย่อมเป็นตัวเลือกที่ตัดสินใจเลือกได้ไม่ยาก

1. ครอบครัวที่ตื่นเช้า ชวนกันออกไปวิ่งรับอากาศเช้าที่ ‘เซ็นทรัล พาร์ค พระราม 2’

สวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ด้านหลังห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พลาซ่า พระราม 2 มีแลนด์มาร์คเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ มีเส้นทางวิ่งโดยรอบ มีลานสำหรับกิจกรรมต่างๆ มีร่มเงาไว้นั่งพักผ่อนหลังออกกำลังกาย และมีโซนให้เด็กเล่นสำหรับพ่อแม่ที่อยากพาลูกมาเล่นออกกำลังกายด้วยกัน หากชอบบรรยากาศปลอดโปร่ง แนะนำให้ไปช่วงเช้าที่คนน้อย หากชอบบรรยากาศคนคึกคัก ช่วงที่แดดร่มลมตกจะเหมาะนัก ที่นี่เปิดให้เข้าฟรี มีที่จอดรถให้ด้วย เปิด 5.00 – 20.00 น.

2. ‘The Bright City Lifestyle Mall’ พื้นที่ของครอบครัวที่รักการใช้จ่ายวันหยุดร่วมกัน 

ไลฟ์สไตล์มอลล์ที่เปิด 24 ชั่วโมง ภายในผ่านการดีไซน์ที่รองรับวันพักผ่อนและการจับจ่ายด้วยระบบการถ่ายเทอากาศแบบ Jet Nozzle ใต้หลังคาผ้าใบขนาดใหญ่ ภายนอกถูกออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวกระจายตัวทั่วทางเชื่อมไปยังส่วนต่างๆ ของมอลล์ พร้อมด้วยร้านอาหารให้ครอบครัวได้อิ่มพร้อมหน้า โซนลานกว้างกลางมอลล์เป็นพื้นที่กิจกรรมที่สับเปลี่ยนตลอดปี มี Foodland Supermarket ให้ซื้อหาข้าวของเข้าบ้าน และร้านรวงอีกมากมาย

3. ‘โกปี๊เฮี้ยะไถ่กี่’ ร้านอาหารสำหรับครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับอาหารเช้า

ร้านเก่าแก่แห่งสะพานผ่านฟ้า ถูกยกมาตั้งอีกสาขาใน The Bright City Lifestyle Mall แต่ยังคงกลิ่นอายเก่าก่อนไว้ด้วยโต๊ะหินอ่อนกลม เก้าอี้ไม้ และเมนูดั้งเดิมสูตรเดียวกับสาขาแม่ โกปี๊เถี้ยะไถ่กี่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารเช้า โดยเฉพาะไข่กระทะสูตรเก่าแก่ตั้งแต่รุ่นอาม่า เสิร์ฟคู่กับขนมปังอบกรอบที่สั่งชีสและเบคอนเพิ่มได้ แนะนำให้รีบรับประทานขนมปังแต่โดยไว เพราะจะได้กัดเนื้อขนมปังที่ร้อนหน่อยๆ ที่กรอบนอกนุ่มใน สั่งคู่กับเซตกาแฟสูตรของร้าน มีให้เลือกเติมทั้งนมข้นจืด นมข้นหวาน น้ำตาล เลือกตามชอบ เปิด 7.00 – 20.00 น.

4. ‘Lord of the Shrimp’ การได้แชร์อาหารกับคนในครอบครัวนับเป็นความสุข

อีกหนึ่งร้านใน The Bright City Lifestyle Mall ที่เด็กและผู้ใหญ่ร่วมโต๊ะและแชร์อาหารกันได้ ทีเด็ดของร้านคือกุ้งสดที่ส่งตรงจากฟาร์มกุ้งจังหวัดตราด เอามาปรุงแบบทั้งทอด ผัด ย่าง หากมาเป็นครอบครัว ชวนให้สั่ง Sharing Platter ที่รวมกุ้ง 3 แบบในเซตเดียวกัน ได้แก่ กุ้งทอดเคลือบซอสสไตล์เกาหลี กุ้งย่างบนหินลาวา และกุ้งชุบเกล็ดขนมปังทอดที่ถูกใจเด็กๆ แน่ ส่วนผู้ใหญ่ก็เลือกจิ้มซอสที่หลากหลายเพิ่มรสชาติได้ แล้วยังมี side dish ให้เลือกแกล้ม เช่นข้าวผัดมันกุ้งสูตรเฉพาะของร้าน หรือขนมปังกระเทียมสูตรจาก Le Cordon Bleu อิ่มกุ้งแล้วมีไอศกรีมซอฟท์เสิร์ฟสไตล์อิตาเลี่ยนเนื้อเนียนปิดท้าย ถูกใจหนูน้อยอีกแล้ว เปิด 11.30 – 21.30 น.

5. ช้อปปิ้งกับครอบครัวจนเหนื่อย ชวนนั่งพักที่ ‘Sammatta’ ก่อนกลับบ้าน 

หากคุณแม่เดินซื้อของใน Foodland หรือร้านอื่นๆ ใน The Bright City Lifestyle Mall จนขาเริ่มเมื่อย ชวนคุณพ่อคุณลูกนั่งพักสักที่ร้าน Sammatta สักพัก ร้านมีมุมโซฟาให้เอนหลังสบายๆ เอกลักษณ์ของร้านคือทุกเมนูขนมและเครื่องดื่มมีน้ำผึ้งเป็นส่วนผสม ซึ่งเป็นน้ำผึ้งแท้ที่ได้มาจากจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ ทั้งน้ำผึ้งดอกไม้ป่า น้ำผึ้งดอกลิ้นจี่ และน้ำผึ้งลำใย อยากให้ลองเครื่องดื่มผสมน้ำผึ้งที่ทำออกมาได้กลมกล่อม เช่น น้ำเสาวรสผสมน้ำผึ้ง หรือน้ำมะกรูดผสมน้ำผึ้ง หวานหอมน้ำผึ้งในทุกอึกที่ดื่ม ใครติดใจ ซื้อน้ำผึ้งแบบขวดหรือกระปุกกลับบ้านได้อีก เปิด 10.00 – 22.00 น.

6. ‘Gourmet District’ จะพาครอบครัวมาเดินเล่นก็ได้ จะมารับประทานอาหารก็ดี

ชวนกันมาเดินเล่นที่ไลฟ์สไตล์ ฟู้ดส์ มอลล์ ในสถาปัตยกรรมสไตล์ทัสคานีที่จำลองมาจากอิตาลี และมีภาพวาด 3 มิติ ซ่อนอยู่ตรงนั้นตรงนี้ให้ชวนชี้และถ่ายรูปด้วย เด็กๆ ยังได้สนุกกับม้าหมุนแห่งเทพนิยาย ส่วนพ่อแม่นั่งดูลูกเล่นได้ในพื้นที่ out door กับเบอร์เกอร์สักชิ้นและเครื่องดื่มสักแก้ว หรือหากจะอิ่มแบบจริงจัง ที่นี่ก็รวบรวมร้านอาหารจากสุดยอดเชฟนานาชาติมาไว้ในที่เดียวกัน อาทิ ไทย จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม อิตาเลี่ยน เปิด11.00 – 21.00 น.

7. ใช้เวลาส่วนตัว จิบกาแฟ ละเลียดเค้ก กลางสวนสวยของ ‘Mitta Cafe’

แม้ครอบครัวจะสำคัญ แต่คนเราต้องมีพื้นที่ส่วนตัวกันบ้าง วันที่คุณพ่อหาที่สงบๆ อ่านหนังสือ วันที่คุณแม่นัดเพื่อนเก่ามาอัพเดตชีวิต ร้าน Mitta Cafe นี่ล่ะที่ขอให้ปักหมุดไว้ ร้านร่มรื่นด้วยต้นไม้ใบหญ้า จัดที่นั่งให้ทั้งมุมใต้ชายคาร้านและกลางสวน หามุมได้ก็สั่งเค้กโฮมเมดที่ทางร้านอัพเดตรายการวันต่อวันทางเฟซบุ๊ค เพราะทำสดใหม่ทุกวัน ฟากเครื่องดื่มก็มีครบที่คาเฟ่ควรมี และมีชาอู่หลงแบบเย็นจากเชียงรายที่อยากให้ลองด้วย เปิด 8.00 – 17.00 น.

8. ครอบครัวนักปั่น ชวนมาปั่นยกบ้านบน ‘2 เส้นทางสู่ทะเลบางขุนเทียน’

ยกขบวนกันไปปั่นออกกำลังกายทั้งครอบครัว บนเส้นทางปั่นบางขุนเทียน-ชายทะเล ที่จัดเลนจักรยานไว้ให้โดยเฉพาะ และไปสิ้นสุด ณ ริมทะเล เริ่มต้นจากปากทางเข้าเส้น ถ.บางขุนเทียน-ชายทะเล ปั่นไปทางโรงเรียนคลองพิทยาลงกรณ์ แล้วเข้าเส้นทางสะพานไม้ศึกษาป่าชายเลน ที่ขนาบด้วยแนวป่าโกงกาง รวมระยะทางราว 20 กม. แต่หากมีกำลังมากหน่อย ลองใช้เส้นถนนใหญ่ ผ่านโรงเรียนคลองพิทยาลงกรณ์แล้ว ให้มุ่งหน้าไปยังศาลเจ้าพ่อมัจฉานุซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับสะพานไม้แดง รวมระยะทางราว 31 กม.

9. เดินเล่นบน ‘สะพานไม้สีแดง จุดชมวิวทะเลบางขุนเทียน’ พื้นที่เรียนรู้ธรรมชาติของเด็กๆ

เป็นจุดชมวิวทะเลบางขุนเทียนที่บรรยากาศดีสุดๆ จูงมือกันเดินทอดน่องบนสะพานไม้สีแดงชมทิวทัศน์ของทะเล  ช่วงกลางสะพานมีศาลาสำหรับนั่งรับลมชมทะเล ที่นี่มีนกอพยพตามฤดูกาลให้พ่อแม่ได้สอนลูกถึงธรรมชาติ ฤดู และการมาของนก อีกทั้งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม ข้อแนะนำคือให้เดินอย่างระวัง อย่าปล่อยให้เด็กเดินโดยไม่มีผู้ใหญ่จูงมือ เนื่องจากมีไม้ที่ผุหักในบางช่วง แต่โดยรวมสะพานแข็งแรงดี

10. ครอบครัวพร้อมหน้าในมื้อค่ำ สั่งอาหารซีฟู้ด สูดอากาศเย็นชื่นของทะเล ที่ ‘ร้านชาน’เล’

หากนึกอยากล้อมวงรับประทานอาหารซีฟู้ดกับครอบครัวก็ไม่ต้องไปไหนไกล บางขุนเทียนขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลอยู่แล้ว ร้านชาน’เล ตั้งติดริมทะเลรับลมเย็นสบาย เปิดบริการตั้งแต่ช่วงกลางวัน แต่ไฮไลท์ของร้านอยู่ในยามพลบค่ำ ดวงไฟประดับต้นแสมจะถูกเปิดสว่างไสวในยามพระอาทิตย์ลับขอบทะเล มองไกลๆ สวยราวหิ่งห้อยส่องแสง จึงขอแนะนำให้มาที่นี่ในช่วงเย็นสักหน่อย ส่วนอาหารทะเลของที่นี่รับตรงมาจากชาวประมงท้องถิ่น จึงมั่นใจได้ว่าสดจริงดีจริง หากอยากนอนริมทะเลสักคืน ที่นี่มีห้องให้พักในส่วนของรีสอร์ทอีกต่างหาก เปิด จ.-ศ. เวลา 10.00-19.00 น. / ส.-อา. เวลา 10.00-20.30 น.